ความเชื่อ เวียงเชียงตุง.พระชี้นิ้วเป็นพระพุทธรูปปางชี้อสุภะ.ลักษณะอยู่ในอิริยาบถยืน.มือซ้ายห้อยลงแนบลำตัว.มือขวายกขึ้นชี้นิ้วตรงไปข้างหน้า

...พระพุทธรูปองค์นี้สร้างโดยรัฐบาลพม่า.ปลายนิ้วจะชี้ไปที่หอหลวงที่ถูกทุบทำลาย(ปัจจุบันสร้างโรงแรมขึ้นแทนที่)




...ชาวเมืองส่วนหนึ่งจึงเชื่อกันว่า.พระะองค์นี้สร้างเพื่อจุดประสงค์แอบแฝง.ภายในองค์พระได้บรรจุของไม่ดี.ของอัปมงคลไว้.เพื่อใช้กด.ใช้ข่มไม่ให้เชียงตุงมีความเจริญหรือได้เป็นอิสระ.คนกลุ่มนี้บางคนเชื่อถึงขนาดไม่กล้าเดินผ่านหรือเงยหน้ามองเพราะกลัวสิ่งไม่ดีจะเข้าตัว.ทำให้ทำมาหากิน.ค้าขายไม่ขึ้น

...อีกส่วนหนึ่งก็บอกว่าพระองค์นี้สร้างเพื่อนำความเจริญรุ่งเรื่องมาสู่เมือง.ทำให้มีบ้านเมืองสงบร่มเย็น.เพื่อนฝูงเป็นพ่อค้าแม่ค้าเดินผ่านทุกวัน.ก็ขายดีทุกวัน.แล้วแต่ความเชื่อครับ.จริงๆแล้วพระพุทธรูปปางนี้ไม่ได้มีเฉพาะที่เชียงตุงและเมืองลาเท่านั้นนะครับ.




...ในสมัยพุทธกาล.ที่กรุงราชคฤห์.มีหญิงงามเมืองผู้เลอโฉมชื่อนางสิริมา นางมีความงามมาก .ยากจะมีผู้ใดเปรียบ.ใครอยากจะร่วมหลับนอนกับนางจะต้องแข่งขันกันและจ่ายทรัพย์มหาศาล.เมื่อนางต้องมาตายตอนยังสาว.พระพุทธองค์ได้รับสั่งให้เก็บศพนางไว้สามวัน.เมื่อครบกำหนด.ได้เสด็จไปทอดพระเนตรศพนางสิริมา.พร้อมด้วยพุทธบริษัทเป็นจำนวนมาก.ทรงมีพระดำรัสให้พระเจ้าพิมพิสาร.ขายทอดตลาดศพนางในราคาถูกและลดราคาลงเรื่อยๆ.จนถึงยกให้เปล่าๆ.ก็ไม่มีผู้ใดยอมรับ.พระพุทธองค์จึงทรงแสดงพระธรรมเทศนา.ชี้ให้เห็นถึงความไม่เที่ยงแห่งสังขาร.ยังผลให้มหาชนบรรลุอริยมรรค.อริยผลเป็นจำนวนมาก.รวมทั้งภิกษุหนุ่มผุ้หนึ่งซึ่งเคยลุ่มหลงในความงามของนางสิริมา.ก็ได้บรรลุโสดาปัตติผล.เป็นพระโสดาบัน.ต่อมาจึงเกิดพระพุทธรูปปางชี้อสุภะ.เพื่อเตือนจิตเตือนใจ

...ครูบาอาจารย์ท่านสอนว่า.ถ้าเป็นเรื่องไสยศาสตร์.หากเราเป็นคนมีศีล.มีกรรมฐานไม่ต้องไปกลัว.ใช้ชีวิตด้วยสติปัญญาอย่าไปงมงายหรือหลงกับวิชาพวกนี้เพราะบุญจะรักษาและคุ้มครองเราอยู่แล้วครับ